ผนึก 7 หน่วยงาน เดินหน้าระบบผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน

Published on

สสส. ผนึก 6 หน่วยงานภาครัฐ-ประชาสังคม บูรณาการระบบดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน เชื่อมหน่วยงานผสานไร้รอยต่อ “นำเข้า-รักษา-ส่งต่อ” พัฒนาระบบ 6 จุด เผยกทม. คนไร้บ้านมีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง 30% แนะวิธีสังเกต “รุงรัง-ติดเหล้า-ตาขวาง-หวาดระแวง” พบเห็นแจ้ง 191 หรือ 1300  

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ 6 หน่วยงานภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข   มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และ  มูลนิธิกระจกเงา ลงนามความร่วมมือ(MOU) ระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อช่วยเหลือดูแลให้ความคุ้มครองสิทธิแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดำเนินการ และขยายครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ของ กทม. ต่อไป

ศ.นพ. รณชัย คงสกนธ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 2 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาคนไร้บ้าน (Homeless) ปัจจุบันประเทศไทยมีคนไร้บ้านทั่วประเทศ 30,000 คน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีคนไร้บ้าน 1,300 คน 30% มีปัญหาด้านสุขภาพจิตที่รุนแรงและเป็นอันตรายต่อสังคม 50% เข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุข เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน ขาดความสามารถในการดูแลตนเอง และการขาดความรู้ในเรื่องสิทธิในการรักษาพยาบาล ทำให้กลุ่มคนไร้บ้านที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ขาดโอกาสในการได้รับสวัสดิการในการช่วยเหลือรักษาพยาบาลจากทางภาครัฐอย่างเหมาะสม จึงได้ผลักดันประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ สสส. เพื่อทำการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดยพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพและมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการนำส่ง การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหรือบ้านพักชั่วคราว  และการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สสส. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เกิดการบูรณาการความรู้และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและเครือข่ายภาคประชาชนในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้งการฝึกอาชีพและการหางานให้กับผู้ป่วยจิตเวชอาการทุเลาที่เสร็จสิ้นการบำบัดรักษาจากโรงพยาบาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับไปใช้ชีวิตในสังคม และเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ในส่วนของสสส.สนับสนุนโครงการวิจัยการพัฒนาระบบการดูแลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ศึกษาพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือและดำเนินโครงการนำร่องร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้ง 3 ระบบซึ่งได้แก่ ระบบนำเข้า ระบบรักษา และระบบจำหน่ายหรือส่งต่อ

“สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไร้บ้านที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต โดยการสังเกตง่ายๆ คือ แต่งกายไม่สะอาด ผมเผ้ารุงรัง มีกลิ่นเหล้าหรือสารเสพติด ตาขวางไม่เป็นมิตร พูดคนเดียวหรือถามตอบไม่ตรงเรื่อง และมีท่าทีหวาดระแวง โดยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 เพื่อให้การช่วยเหลือตามระบบต่อไป ซึ่งสสส.ยังสนับสนุนให้จัดทำคู่มือการนำส่งผู้ป่วยไร้บ้านที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตสำหรับตำรวจ คู่มือระบบการดูแลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยไร้บ้านในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี ด้วย”นางภรณีกล่าว

ด้าน ดร.นิฤมน รัตนะรัต ผู้อำนวยการหลักสูตร ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสังคม คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้จัดการโครงการวิจัย กล่าวว่า จากการวิจัยพบระบบการช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านมีปัญหาอุปสรรคหลายประการทำให้ขาดประสิทธิภาพการดำเนินการโดยเฉพาะการเชื่อมต่อของหน่วยงานต่าง สามารถสรุปขั้นตอนข้อเสนอในการพัฒนาระบบดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ 6 จุด คือ

จุดที่ 1 ควรจัดตั้งศูนย์รับแจ้งข้อมูลคนไร้บ้านกลางทางโทรศัพท์ (Hot line หรือ call center) ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300

จุดที่ 2 ควรจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการคนไร้บ้านกลาง (Case manager center)

จุดที่ 3 ควรจัดตั้งศูนย์ข้อมูลคนไร้บ้านกลาง (Data base center)

จุดที่ 4 ควรทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) หรือจัดทำแนวทางการปฏิบัติร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลทั่วไปของรัฐที่รักษาโรคทางกายกับโรงพยาบาลจิตเวชในประสานงานร่วมกันในการส่งตัวและการรับตัวผู้ป่วยไร้บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล

จุดที่ 5 ควรกำหนดให้มีการประชุมให้ความช่วยเหลือร่วมกัน (Case conference)  ระหว่างทีมสหวิชาชีพ

จุดที่ 6 ควรมีการพัฒนาระบบการฟื้นฟูผู้ป่วยในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถีโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐในด้านงบประมาณ บุคลากรและองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ภายในสถานคุ้มครอง

นอกจากนี้ ยังดำเนิน “โครงการขับเคลื่อนเชิงนโยบายระบบการดูแลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน” โครงการวิจัยระยะที่ 2 ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากโครงการวิจัยแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this