เอสซีจี แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2560

Published on

เอสซีจี แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2560
เดินหน้าโครงการลงทุนอาเซียน ต่อยอดความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมจากทั่วโลก

ผลประกอบการเอสซีจีครึ่งปีแรก กำไรใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ดีจากไตรมาสแรก เผยกลยุทธ์ลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนในอาเซียนคืบหน้า อนุมัติโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนามมีศักยภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ขณะที่การผลักดันนวัตกรรมรุดหน้าไปมาก ล่าสุดเปิดรับความร่วมมือจากสถาบันวิจัย ตลอดจนผู้ประกอบการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก พร้อมเสริมการลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลก มุ่งสร้างสรรค์สินค้าบริการเพื่ออนาคต ป้อนตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจีในไตรมาสที่ 2ประจำปี 2560 มีรายได้จากการขาย 108,825 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 13,252 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 24 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ ประกอบกับสภาพตลาดชะลอตัว และการแข่งขันโดยรวมในธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่รุนแรงมากขึ้น สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 225,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 30,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 1 นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการส่งออกครึ่งปีแรก 60,689 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27 ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดในประเทศจีนและเอเชียใต้

สำหรับผลการดำเนินงานของเอสซีจีในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียน 52,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เอสซีจีมีสินทรัพย์รวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มูลค่า 137,783 ล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของสินทรัพย์รวมของบริษัท

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีมูลค่า 552,373 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกปี 2560 แยกตามรายธุรกิจดังนี้

เอสซีจี เคมิคอลส์ ในไตรมาสที่ 2 ในปี 2560 มีรายได้จากการขาย 49,585 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อน มีกำไรสำหรับงวด 9,258 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 31จากไตรมาสก่อน เนื่องจากขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (inventory loss) ในครึ่งปีแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 103,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้จากไตรมาสที่ 1 กำไรสำหรับงวด 22,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ในไตรมาสที่ 2 ในปี 2560 มีรายได้จากการขาย 42,657 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 5 จากไตรมาสก่อน มีกำไรสำหรับงวด 1,768 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 29 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 28 จากไตรมาสก่อน ในครึ่งปีแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 87,481 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสภาวะตลาดในประเทศไทยที่ยังคงชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น มีกำไรสำหรับงวด 4,236 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ในไตรมาสที่ 2 ในปี 2560 มีรายได้จากการขาย 19,434 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 1,019 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในครึ่งปีแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 39,275ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ มีกำไรสำหรับงวด2,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ในไตรมาสแรก

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า “เอสซีจียังคงเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้อนุมัติการลงทุนใน Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 71 ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 188,000 ล้านบาท(5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ร่วมกับ Vietnam Oil and Gas Group (PetroVietnam) เพื่อดำเนินโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกของประเทศเวียดนามที่มีความทันสมัยระดับชั้นนำของโลกและมีความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ เนื่องจากเชื่อมโยงจากโรงงานปิโตรเคมีขั้นต้นถึงขั้นปลายครบวงจร สามารถใช้วัตถุดิบได้อย่างยืดหยุ่น (flexible feedstock) มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์ 1.6 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีครึ่ง และจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565 ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าและตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี”

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2560 เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services -HVA) 86,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 38 ของยอดขายรวม โดยล่าสุดได้เปิดตัว Open Innovation Centerต่อยอดความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากสถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคธุรกิจจากทั่วโลก เพื่อร่วมคิดและพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการสู่ตลาด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้รวดเร็วและตรงจุดยิ่งขึ้น รวมถึงได้มีการลงทุนสนับสนุนธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ โดยเปิดตัว AddVentures บริษัทในรูปแบบ Corporate Venture Capital หรือ CVC เน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาด้านดิจิทัลเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบรับ Digital Transformation โดยจะพิจารณาการลงทุนทั้งรูปแบบ Direct Investment ในสตาร์ทอัพรายต่างๆ โดยตรง และการลงทุนในกองทุน (Venture Capital) ต่างๆ ที่มีการลงทุนในสตาร์ทอัพ อีกทั้งได้เปิดโครงการสตาร์ทอัพภายใน(Internal Startup) เพื่อสนับสนุนให้พนักงานฝึกฝนและพัฒนาทักษะในการทำงานร่วมกับธุรกิจสตาร์ทอัพที่เน้นความคล่องตัวและรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เอสซีจีคาดว่าในปีนี้จะใช้งบประมาณการลงทุนรวมด้านการพัฒนานวัตกรรมประมาณ 5,000 ล้านบาท”

คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2560 ในอัตรา 8.50 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 10,200 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 24 สิงหาคม 2560 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 7 สิงหาคม 2560กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 9 สิงหาคม 2560 และปิดสมุดทะเบียนรวบรวมรายชื่อเพื่อสิทธิรับเงินปันผลวันที่10 สิงหาคม 2560

ติดตามข่าวสารของเอสซีจีเพิ่มเติมได้ทาง www.scg.com

Latest articles

ทช.-SCG 3D Printing โชว์ผลงานฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ SCG 3D Printing โชว์ผลงาน “ฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง Whirling Wave Pagoda หรือเจดีย์เกลียวคลื่น” ไอเดียต้นแบบรางวัลชนะเลิศจากโครงการ “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025”

บัตรเครดิต ttb จัดแคมเปญ “ยิ่งแลก ยิ่งลุ้น” ผ่านแอป ttb touch

บัตรเครดิต ttb จัดแคมเปญ “ยิ่งแลก ยิ่งลุ้น” ผ่านแอป ttb touch รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลทองคำรวม 4 บาท และรางวัลอื่น ๆ รวมกว่า 250,000 บาท

InterContinental Doors Unlocked 2025 ชวนท่องไปกับประสบการณ์ระดับโลก

Doors Unlocked by InterContinental เปิดประตูสู่โลกของผู้นำเทรนด์และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พาแขกผู้เข้าพักสัมผัสเบื้องหลังงานใหญ่ระดับโลก ตั้งแต่แฟชั่นวีคไปจนถึงเทศกาลภาพยนตร์

“ภาวุธ” ดันตลาดสตาร์ทอัพ Data AI ลงทุน PAM เสริมแกร่ง SME ไทยแข่งขันได้

ธุรกิจไทยควรได้ใช้ข้อมูลที่เป็นของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้แพลตฟอร์มต่างชาติเก็บและควบคุม โดย PAM จะเป็นเครื่องมือศูนย์รวมข้อมูลลูกค้าที่ทำให้ SME ไทยเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจริง และใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างเต็มที่

More like this