“เอสทีค ทองหล่อ” (AESTIQ Thonglor) Ultimate Luxury คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดของบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดตัวห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายโครงการ ภายในซอยสุขุมวิท 55 พร้อมเผยยอดพรีเซลล์ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าตัวจริงกวาดยอดขายไปแล้วถึง 50%
นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์ธุรกิจ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ AESTIQ Thonglor พร้อมแล้วสำหรับการเปิดสำนักงานขายและห้องตัวอย่างให้ลูกค้าทั่วไปและผู้ที่สนใจโครงการเข้าชม ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 15-16 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการได้จัดงานrพรีเซลล์ขึ้น โดยบรรยากาศภายในงานมีลูกค้าเข้ามาชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่างกันอย่างคึกคัก ซึ่งลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ได้แสดงถึงความพอใจกับสิ่งที่โครงการนำเสนอ ทั้งในเรื่องของรูปแบบงานออกแบบสถาปัตยกรรมอาคารที่โดดเด่นจากผลงานการออกแบบของบริษัท สถาปนิก 49 และด้วยจำนวนยูนิตเพียง 203 ยูนิตพร้อมไพรเวท ลิฟท์ทุกห้อง ที่สุดของความเป็นส่วนตัว การมีที่จอดรถเกิน 100 % หรือประมาณ 220 คัน(รวมที่จอดรถซุปเปอร์คาร์ 3 คัน) ก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากในคอนโดมิเนียมใหม่ๆยุคปัจจุบันโดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในกลางเมืองแบบนี้ จึงทำให้ AESTIQ Thonglor ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ที่ชื่นชอบ Lifestyle การใช้ชีวิตสนุกสนานในแบบคนทองหล่อ แต่ก็ยังคงต้องการความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวเมื่อเข้าสู่ที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
โครงการ เอสทีค ทองหล่อ มีห้องให้เลือก 4 แบบคือ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33-52 ตารางเมตร(ตร.ม.) แบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 76-119 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 131-158 ตร.ม.และแบบเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอย 292-301 ตร.ม. พร้อมขายในรูปแบบ Fully Fitted ที่เลือกวัสดุชั้นดีมาเป็นองค์ประกอบภายในห้อง อาทิ พื้นไม้ Engineering Wood สีคลาสิคโอ็ค สำหรับห้องนั่งเล่นและห้องนอน , พื้นปูด้วยมาเบิ้ล พอชเลน สำหรับห้องครัว ห้องน้ำ พร้อมอุปกรณ์ครัวซีรี่ย์ใหม่จาก Gorenje ในแบบครบชุด
จุดเด่นของโครงการอยู่ที่การออกแบบเพื่อฉีกแนวการใช้ชีวิตแบบเดิมด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย อาทิ ที่จอดรถ Super Car & Super Bike and Bicycle , Luxury Car Sharing Service , Shuttle Service , EV Charging Station , Golf & Bike Simulator , Private Theater , Private Onsen , Panoramic Gym , Sky Social Club , Reflection Pool , Aquatic Treadmill ฯลฯ รวมทั้งยังมีบริการเสริมอื่น ๆที่ดูแลโดย Concierge Service คอยให้บริการเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และ floorplan เองได้ถูกออกแบบให้เป็น Cluster ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้จะเกิดห้องมุมในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของมุมมองจากภายในห้องพักที่กว้างและเป็นการเปิดรับการระบายอากาศธรรมชาติให้การอยู่อาศัยนั้นมีความแตกต่างจากการพักอาศัยภายในคอนโดมิเนียมทั่วไป โดยออกแบบให้ฝ้าเพดานภายในสูงสุด 3 เมตร และเน้นพื้นที่กระจกบริเวณหน้ากว้างของห้องพัก ซึ่งบางยูนิตมีลักษณะเหมือนห้องที่ยื่นออกไปในอากาศ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่งดงามของทิวทัศน์เมืองได้เต็มที่ที่สุด
โครงการเปิดราคาขายเริ่มต้นที่ 269,000 บาทต่อตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 8.99 ล้านบาทต่อยูนิต โดยคาดจะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2564