สัตว์เลี้ยงในคอนโด เลือกอย่างไรแบบไหนดี ไม่มีเดือดร้อนใคร

10245

ชีวิตของคนเมือง นอกจากจะต่อสู้ดิ้นรนกับสภาวะแวดล้อมที่กดดันแล้ว ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นต์ หรือ หอพัก ซึ่งมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่คนในปัจจุบันมองหาคือ ที่พักที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพราะนั่นคือหนึ่งในแนวทางของการผ่อนคลาย เหมือนมีเพื่อนสนิทอยู่ใกล้ๆ

ปัจจุบันมีที่พักหลายแห่งที่เปิดให้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่ก็คงจำกัดเฉพาะกลุ่มสัตว์เลี้ยงเล็กๆ ที่ไม่ส่งเสียง กลิ่น หรือสร้างความรำคาญเป็นที่รบกวนผู้อยู่อาศัยท่านอื่นๆ จนบางครั้งก็เป็นสาเหตุให้คนต้องทะเลาะกันเพราะสัตว์เลี้ยงมามากต่อมาแล้ว

ข้อมูลจากการจัดงาน Pet Expo Thailand 2018 จึงได้แนะนำสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่จำกัด โดยไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ใคร ดังนี้

  • ปลา แนะนำเลี้ยงปลาขนาดเล็ก และตกแต่งด้วยไม้น้ำ เช่น ปลานีออน ปลาคาดินัล ซึ่งมักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง เวลาที่เราเหนื่อยล่าลองพักสายตาแล้วมองไปที่ตู้ปลาจะรู้สึกช่วยผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว แถมยังไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถใช้ตู้ปลาขนาดไม่ใหญ่มากได้ และที่สำคัญในปัจจุบันตู้ปลามีระบบกรองน้ำ เพื่อใช้บำบัดของเสียในตู้ปลา ทั้งอาหารที่เหลือในตู้ ขี้ปลา เมื่อมีระบบนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกรองน้ำบ่อยๆ
  • นก อย่าง นกแก้ว ที่เราสามารถเลี้ยงในกรงได้ เสียงไม่ดังจนก่อให้เกิดความรำคาญกับห้องข้างๆ อย่างแน่นอน

  • กระต่าย เจ้าขนปุยสุดน่ารัก ที่เลี้ยงไม่ยาก แถมไม่ใช้พื้นที่เยอะด้วย เช่น พันธุ์ เนเธอร์แลนด์ ดวอฟ (Netherland Dwarf) ลักษะเด่น คือ ลำตัวสั้น กะทัดรัด ขนนุ่ม-แน่น หรือจะเป็นพันธุ์ Czech Frosty กระต่ายหน้ากลม กระดูกหนา ตัวตันสุดน่ารักไปอีกแบบ
  • กระรอก เจ้าตัวเล็กที่ราคาไม่แรง แถมยังน่ารักสุดๆ สำหรับพันธุ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงกันก็คือ กระรอกสวน เช่น กระรอกสวนท้องขาว กระรอกสวนหลังดำ และกระรอกสวนท้องแดง เพราะจะมีหางฟูสวยงาม หาง่าย ราคาแค่ประมาณ 200-600 บาทเท่านั้น ยิ่งถ้ารับมาเลี้ยงให้เชื่องตั้งแต่อายุก่อน 4 เดือน จะดูแลง่าย และเชื่อฟังมากๆ

  • หนู ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง ทั้งหนูชินชิล่า (Chinchilla) หนูแฮมสเตอร์ หนูเดกู (Degu) เพราะหนูไม่ได้ส่งเสียงสร้างความรำคาญ แต่ผู้เลี้ยงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบะทราย หรือแม้แต่กรงที่อยู่ของเจ้าหนู เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวน และต้องมีของเล่นให้เค้าได้คลายเครียดด้วย
  • แพรี่ด็อกซ์ เป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกัน ตัวเล็กพอๆ กับกระต่าย แสนรู้ มีความขี้อ้อน หลายคนจึงตกหลุมรักอย่างง่ายดาย

นอกจากนั้นยังมีข้อแนะนำในการเตรียมตัวว่า ก่อนจะเลือกซื้อสัตว์เลี้ยงมานั้น ต้องศึกษาถึงนิสัย พฤติกรรม อาหาร หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ เพื่อประเมินได้ถูกว่า เหมาะที่จะเลี้ยงพวกเขาไหม และมีอะไรที่ต้องเตรียมพร้อมหรือต้องปรับตัวบ้าง เช่น

  • การเลี้ยงปลา จำเป็นต้องมีตู้ปลา มีอาหาร ออกซิเจน อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ รวมถึงต้องคำนึงถึงเรื่องการเปลี่ยนน้ำให้ปลาตามรอบของมันด้วย
  • นก อย่างนกแก้วหรือนกสวยงาม ที่ต้องมีกรง มีอาหาร รวมถึงมีของเล่นเล็กๆ อื่นๆ ให้นกได้เล่นหรือเกาะด้วย
  • กระต่าย ต้องเตรียมกรง ขวดน้ำ ที่แขวนข้างกรง ถาดถ้วยเซรามิกใส่อาหารเม็ดกับหญ้า การเลี้ยงควรให้หญ้าสดและหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก เสริมผักและผลไม้เล็กน้อยส่งผลต่อสุขภาพและการขับถ่าย และอย่าลืมห้องน้ำกระต่ายด้วย
  • กระรอก ผู้เลี้ยงต้องเตรียมที่อยู่สำหรับกระรอก(กรง) ภายในอาจตกแต่งเป็นแบบโพรง เพื่อให้กระรอกที่อาศัยรู้สึกปลอดภัย ในกรงกระรอกควรมีภาชนะสำหรับใส่น้ำไว้ด้วย ส่วนอาหารกระรอกกินได้หลายชนิดโดยเฉพาะผักผลไม้ และธัญพืช นอกจากนี้ ควรเตรียมกระเป๋า และโซ่ สำหรับพาเจ้ากระรอกน้อยไปเที่ยวนอกบ้านด้วย

  • หนู ควรเตรียมความพร้อมด้านที่อยู่ อาหาร ของเล่นวงล้อปั่น น้ำดื่ม ห้องน้ำ เราควรศึกษาพฤติกรรมของเจ้าหนูให้ละเอียด ทำความคุ้นเคยกับมันก่อนที่จะเล่นกับเขา
  • แพรี่ด็อกซ์ เบื้องต้นต้องมีกรง ที่ซี่กรงไม่ห่างเกินไปนักเพราะอาจหลุดได้ และไม่สูงมากเพราะอาจตกลงมาบาดเจ็บได้ และไม่ควรชุบสีเพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ส่วนอาหารการกินที่ต้องกินเป็นประจำทุกวันคือ หญ้า และอาหารเม็ดและต้องมีขวดน้ำใส่น้ำสะอาดติดกรงไว้ตลอด เปลี่ยนหญ้าหรือเติมใหม่ทุกวัน ควรทำความสะอาดถาดรองกรงอย่างน้อยอาทิตย์ละ2ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมเชื้อโรคและกลิ่น

ใครที่สนใจข้อมูลการเลี้ยงเจ้าตัวน้อย หรือมองหาสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ก็ลองไปที่งาน Pet Expo Thailand 2018 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค – 3 มิ.ย 2561 ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C ชั้น 1-2 , โซนพลาซ่า และโซนเอเทรียม

ส่วนคนที่อยากมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ก็ต้องคิดทบทวนกันหลายตลบ นอกจากการดูแลพวกเขาด้วยสุขอนามัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พร้อมการดูแลเรื่องโรคภัยที่อาจจะติดต่อจากสัตว์อย่างเคร่งครัดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเวลาในการดูแลด้วย เพราะหากคิดว่าเขาคือเพื่อนหรือสิ่งที่เรารัก ก็ต้องดูแลโดยไม่ทอดทิ้งกันด้วยล่ะ