มหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล

Published on

พม. ร่วมกับมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล จัดงานมหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 3 ( Thailand Friendly Design Expo 2018 )

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิด “มหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 3” (Thailand Friendly Design Expo 2018) พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงาน องค์กรดีเด่น และคนพิการต้นแบบ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพคเมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการ และผู้สูงอายุ รวมทั้งคนทั้งมวล อีกทั้งเพื่อให้สังคมตระหนักและคำนึงถึงความสำคัญและความจำเป็นของการจัดให้มีการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) หรืออารยสถาปัตย์ (Friendly Design) อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ มีผู้ร่วมงาน ประกอบด้วย คนพิการ ครอบครัวและผู้ดูแลคนพิการ อาสาสมัคร สถาบันการศึกษา ภาคีเครือข่ายด้านคนพิการทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชน และเครือข่ายผู้พิการ ASEAN รวมทั้งประชาชนทั่วไป จำนวนประมาณ 1,500 คน

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า ด้วยประเทศไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคาดว่าในปี 2564 ประเทศไทย จะมีจำนวนผู้สูงอายุถึง 20% เป็นการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งประเทศไทยยังมีจำนวนคนพิการเกือบ 2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นประชากรเกือบ 3% ของประเทศ ฉะนั้น จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป โดยมีการนำแนวคิดของการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) หรืออารยสถาปัตย์ (Friendly Design) เป็นแนวคิดเชิงก้าวหน้าสร้างสรรค์ และมีความสำคัญเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เป็นการเสริมความเป็นอารยสถาปัตย์เข้าไปในนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ในตึกอาคาร บ้านเรือน ตลอดจนสถานที่สาธารณะ และระบบขนส่งมวลชนต่างๆ เพื่อทำให้คนทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย สามารถเข้าถึงการใช้งานสถานที่ต่างได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความเท่าเทียม และมีอิสระในการใช้ชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงผู้อื่น อันเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น นำไปสู่การขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 มากขึ้น

พลเอก อนันตพร กล่าวต่ออีกว่า จากแนวคิดดังกล่าว มีการนำมารวบรวมและนำเสนอภายในงาน “มหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 3” (Thailand Friendly Design Expo 2018)  โดยผนวกกับแนวความคิดหลักที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกยุคปัจจุบัน และประยุกต์เข้ากับยุคสมัยไทยแลนด์ 4.0 คือ “Smart Living for All : คุณภาพชีวิตที่นำสมัยเพื่อคนทั้งมวล” โดยมุ่งเน้นการดูแล รักษา ฟื้นฟู ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น คนพิการ สตรีตั้งครรภ์ และคนที่ใช้รถเข็น เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบาย ทันสมัย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเดินทางคมนาคมที่สะดวก การพักผ่อนท่องเที่ยวได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป ผ่านการนำเสนอสินค้า นวัตกรรม เทคโนโลยี การแพทย์ การเงิน การออกแบบ และการบริการดูแลสุขภาพสำหรับคนทุกวัย ที่มีการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทั้งมวลจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งจากองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนที่เป็นบริษัทชั้นนำ

พลเอก อนันตพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ประกอบด้วย ขบวนแห่มนุษย์ล้อนานาชาติ การแสดงโขนรามเกียรติ โดยกระทรวงวัฒนธรรม และการมอบใบประกาศเกียรติคุณ Friendly Design Awards รวมทั้งนิทรรศการที่น่าสนใจ ซึ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ 1) โซนคุณภาพชีวิตที่นำสมัย (Smart Living for All) 2) โซนการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Design for All) 3) โซนการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) 4) โซนอาหารเพื่อคนทั้งมวล (Food for All) และ 5) โซนสินค้า Friendly Design ทั้งนี้  ได้รวบรวมแนวความคิดจากทุกโซนในงานมาไว้ในพาวิลเลี่ยน ของ กระทรวง พม. หรือ Smart Pavilion เพื่อเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมสังคมไทยในปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมอันหลากหลาย ซึ่งช่วยให้การดำเนินชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this