ส่อง 5 นวัตกรรมเอไอ ฝีมือเด็กวิศวะ มธ.

72

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ถูกพูดถึงมากขึ้นในยุคดิจิทัลนี้ แต่สำหรับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา และได้กลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ TSE จำนวน 5 ผลงาน ดังนี้

• “หนูขออ่าน” ตัวช่วยสถานพยาบาล ยกระดับการให้บริการสาธารณสุข
ความรวดเร็วและความแม่นยำในการตรวจคัดกรองทางการแพทย์ คือ หัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ รองศาสตราจารย์ ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิต อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาชุดตรวจคัดกรองผู้มีความบกพร่องในการเรียนรู้ (Learning Disabilities: LD) ด้วยเอไอบนแทปเลตหรือสมาร์ทโฟน เรียกว่า “หนูขออ่าน”

อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถคัดกรองเด็กที่มีความบกพร่องได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยใช้เวลาตรวจคัดกรองเพียง 30 นาที และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำถึงร้อยละ 95 นวัตกรรมนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างมาก ในการช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในสถานพยาบาลให้มีความคล่องตัว และช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยได้เข้าถึงการดูแลที่เหมาะสม อีกทั้งยังส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กไทยให้มีพัฒนาการที่สมวัยอีกด้วย

• “ก๊อปเกรดเอสะเทือน” แอปพลิเคชันตรวจกระเป๋าแอร์เมส เอไอที่แม่นยำกว่าสายตาของมนุษย์
ถึงแม้หลายประเทศจะมีกฎหมายเอาผิดกับผู้ผลิตสินค้าที่เลียนแบบเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง แต่กระบวนการผลิตที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ และใช้เวลานานกว่าจะรู้ผล จึงเป็นที่มาของการพัฒนาตัวช่วยในการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพที่แม่นยำ พัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิตเช่นกัน

ก๊อปเกรดเอสะเทือน ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจดจำและวิเคราห์ความแตกต่างได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชั่น โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก (Deep Neural Network) ในการตรวจจับรูปแบบและริ้วรอยบนโลโก้ของกระเป๋า รวมถึงวัสดุที่ใช้ด้วยวิธีง่ายๆ ใน 2 ขั้นตอน คือ “ถ่ายภาพโลโก้กระเป๋าต้องการตรวจ” แล้ว “กดประมวลผล” ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที โดยผลงานดังกล่าวได้รับรางวัลเหรียญทองแดง ด้านซอฟแวร์คอมพิวเตอร์จากงาน International Exhibition of Inventions of Geneva ครั้งที่ 44 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

• แพลตฟอร์มเอไอรางวัลระดับโลก ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
จากการที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้หลายหน่วยงานเร่งหามาตรการควบคุม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิศาล แก้วประภา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเอไอ “เอสซิท” (SCIT) ที่สามารถใช้งานได้กับรถยนต์ทุกรุ่น

แพลตฟอร์มดังกล่าวมีระบบแจ้งเตือนพฤติกรรมผู้ขับขี่เมื่อง่วงนอน คุยโทรศัพท์ ขับส่ายไปมา ไม่อยู่บนเส้นทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และยังสามารถตรวจจับแรงกระแทกจากการชน ซึ่งจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออัตโนมัติทันทีผ่านเทคโนโลยีไอโอที (IoT) เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ทำให้เอสซิทได้รับรางวัลเหรียญทอง ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดจากการประกวดนวัตกรรมนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

• โบราณสถานเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสำคัญของไทย ให้เอไอช่วยดูแล
ปัจจุบันเทคโนโลยีโดรนกลายเป็นทางเลือกสำหรับการถ่ายมุมสูง ที่สามารถทำลายอุปสรรคของการถ่ายภาพ เช่น ความสูง ความลาดชัน พื้นที่เสี่ยงอันตราย ผศ.ดร.กฤษฎา ไชยสาร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ได้นำประสิทธิภาพของโดรนมาต่อยอดในงานวิศวกรรม

โดยนำโดรนมาช่วยสำรวจโครงสร้างของโบราณสถาน ที่ประยุกต์กับความรู้ทางด้านวิศวกรรรมโยธา เพื่อตรวจสอบความแข็งแรง รอยร้าว การเอียง และการทรุด ซึ่งนำภาพที่ได้จากโดรน ไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Visual Inspection) เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาช่วยตรวจจับความผิดปกติของโครงสร้าง และสร้างแผนที่ความเสียหายได้อัตโนมัติ งานวิจัยดังกล่าว ได้รับรางวัลงานวิจัยดีเด่นจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ปี 2561 อีกด้วย

• แบบจำลองเอไอคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน ช่วยบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รากฐานของเศรษฐกิจและสังคมไทย ส่วนใหญ่มาจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งต้องพึ่งพาระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น การคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่แม่นยำ จึงมีความสำคัญต่อการวางแผนการเพาะปลูก อีกทั้งการขยายตัวของชุมชนเมืองและภาคอุตสาหกรรม ล้วนส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำ

รองศาสตราจารย์ ดร.อุรุยา วีสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา และคณะ ได้ออกแบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างแบบจำลองการพยากรณ์ฝน ที่สามารถคาดการณ์ปริมาณฝนในแต่ละพื้นที่ได้แบบรายปี ซึ่งนำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออก รองรับการเติบโตของอีอีซี ผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัล Special Prize จากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในการประกวดนวัตกรรมนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

ปีนี้ TSEเตรียมจะจัดงานใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ภายใต้แนวคิด “30 ปีแห่งความภูมิใจ TSE เป็นมากกว่าวิศวกร” เพื่อนำเสนอสุดยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมรางวัลระดับโลกรวมถึงการประกาศจุดยืนการผลิตวิศวกรรุ่นใหม่ ที่จะร่วมผลักดันโรดแมปวิศวกรรมเพื่อประชาชน ในวันที่ 19 สิงหาคม 2562

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th และ Facebook fanpage ของ TSE ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT