‘กองทรัสต์’ ทางเลือกลงทุน ช่วงตลาดผันผวน

40

ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากน้อยนิด แถมอาจจะโดนเก็บภาษีหากมียอดสูงกว่า 2 หมื่นบาท ตามที่กรมสรรพากรกำหนด ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงจากปัจจัยภายนอกประเทศที่ไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่านักลงทุนบาดเจ็บกันถ้วนหน้า นักลงทุนจำต้องมองหารูปแบบการลงทุนประเภทใหม่ที่จะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ

กองทรัสต์ เป็นอีกรูปแบบของการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น บริษัท เอไอเอ็มกรุ๊ป ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ จึงมองเป็นโอกาสในการพัฒนา “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์” หรือ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท’ (AIM Commercial Growth Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust – AIMCG) เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน

จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ เอไอเอ็มกรุ๊ป ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ กล่าวว่า ข้อดีของกองทรัสต์ คือให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระดับที่สูงมาก ขั้นต่ำ คือ 6% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 1.5% เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าช่วง 3 เดือน ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนประมาณ 10% แต่อีก 9 เดือนที่เหลือนักลงทุนเจ็บตัวกันถ้วนหน้า จากความผันผวนของตลาด ซึ่งมีความอ่อนไหวกับข่าวต่างๆ ขณะที่การลงทุนในกองทรัสต์ปันผลทุกไตรมาส อย่างน้อย 2% ถึงสิ้นปีได้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 8% โดยไม่ต้องปวดหัวกับการลงทุนในตลาดหุ้นที่ต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น โดยมองหาการลงทุนในรูปแบบใหม่

สำหรับกองทรัสต์ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท หรือ AIMCG มีนโยบายเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Real Estate Property) ที่มีศักยภาพอย่างหลากหลาย อาทิ ศูนย์การค้า ไลฟ์สไตล์มอลล์ อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การประชุม ฯลฯ เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุน โดยจะเข้าลงทุนครั้งแรกในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ประเภทไลฟ์สไตล์มอลล์ 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการยูดี ทาวน์ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวัดหัวเมืองเศรษฐกิจที่มีการขยายตัว 2. โครงการพอร์โต้ ชิโน่ จังหวัดสมุทรสาคร บนถนนพระราม 2 (ขาออก) และ 3. โครงการ 72 คอร์ทยาร์ด ใจกลางซอยทองหล่อ (ซอยสุขุมวิท 55)

การลงทุนในทรัพย์สินครั้งแรกของทรัสต์ AIMCG มีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 2,880 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมาจากการระดมทุนโดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 2,880 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยทรัสต์ AIMCG มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อรอบปีบัญชี ซึ่งประมาณอัตราเงินจ่ายในปีแรกตามประมาณการงบกำไรขาดทุนที่คาดคะเนตามสมมติฐานของกองทรัสต์ สำหรับงวด 12 เดือน (1 กรกฎาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563) สอบทานโดยผู้ตรวจสอบบัญชี จะอยู่ที่ประมาณ 8% อ้างอิงจากราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์ 10 บาทต่อหน่วย

ข้อดีของการลงทุนในกองทรัสต์อิสระ คือบริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของทรัพย์สิน เพราะฉะนั้นจะสามารถดำเนินการบริหารจัดการได้อย่างเป็นธรรมและโปรงใส การกำหนดมูลค่าเงินลงทุนเกิดจากการวิเคราะห์อย่างละเอียด เลือกทรัพย์สินที่จะลงทุนได้อย่างมีศักยภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นัลงทุน ที่สำคัญทีมงานได้รับอนุมัติดำเนินการจาก ก.ล.ต. ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง ครบถ้วนตามข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างครบถ้วน

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกและแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) ของทรัสต์ AIMCG ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว และเมื่อวันที่ 25-28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดให้นักลงทุนจองซื้อหน่วยทรัสต์ โดยได้รับผลตอบรับที่ดีมียอดจองครบก่อนระยะเวลาที่กำหนด คาดว่าจะเปิดซื้อขายอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้

ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุน ในยามที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน